Skip to main content

เตรียมความพร้อมเข้าสู่ ASEAN COMMUNITY

ในปี 2558 ประชาคมอาเซียน จะเริ่มเดินหน้าฟันเฟืองแห่งอนาคตอย่างเต็มรูปแบบแล้ว เหลือเวลาเพียงปีกว่าๆ เท่านั้น สำหรับการเตรียมพร้อมตัวเอง เตรียมพร้อมประเทศ และเตรียมพร้อมเด็กๆ ของเราเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเชียน

ประชาคมอาเซียน(ASEAN Community) เกิดจากการประชุมในกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นก็คือกลุ่มอาเซียนนั่นเอง เพื่อกำหนดแผนยุทธศาสตร์ที่จะเริ่มขึ้นในปี 2558 เพื่อขับเคลื่อนองค์กรอาเซียนให้ก้าวไปข้างหน้าสู่ระดับโลก

เด็กไทยพร้อมรับประชาคมอาเซียนแค่ไหน


นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเด็กและครอบครัวแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญทำงานด้านการพัฒนาเด็กและครอบครัวมายาวนานประชาคมอาเซียน, อาเซียน, สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ASEAN, Spirit of ASEAN, Buffer Schoo, Sister School, โรงเรียนนำร่อง, ASEAN Community, ลูกวัยอนุบาลจะมาให้คำตอบเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของการเตรียมความลูกวัยอนุบาลสู่ประชามคมอาเซียนครับ
“ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เด็กไทยยังไม่พร้อมที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ไม่พร้อมตั้งแต่ในแง่ของโครงสร้างทางความคิด ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ ทั้งระบบ ซึ่งกว่าจะขยับตัวก็ช้ามากในการพัฒนาเด็กและการเตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่อาเซียน ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของประเทศอาเซียน แต่ความพร้อมของประเทศในแง่มุมอื่นกลับจะมีการเน้นมานานกว่า เช่น ประชาคมเศรฐกิจ ประชาคมทางความมั่นคง แต่พอมิติทางสังคมและวัฒนธรรมมันเป็นจุดที่อ่อนแอ จากวันนี้อีกสองปีเท่านั้น หากเรามีการเตรียมความพร้อมที่ดี ไทยจะเป็นศูนย์กลางประตูสู่อาเซียนได้ แต่ ณ วันนี้เด็กยังไม่ได้รับการเตรียมความพร้อมที่ดีพอ เด็กไทยยังไม่ได้ก้าวสู่ความเป็นอินเตอร์เท่าที่ควร ยังไม่มีความทันสมัยในกลุ่มของอาเซียน นั่นเพราะเรายังรู้จักกันไม่ดีพอ
ที่สำคัญคือไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ เรายังขาดการเตรียมความพร้อมในเรื่องทัศนคติของความเป็นมนุษย์ ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดทัศนคติที่บวกต่อประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นประเทศกำลังพัฒนาเหมือนเรา โดยมองในมุมบวกด้านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ดีงาม หากเรามองประเทศเพื่อนบ้านเป็นประเทศด้อยพัฒนา การศึกษาต่ำกว่าเรา ก็อาจเกิดความแตกแยกทางสังคม ไม่ยอมฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน การไม่ยอมรับวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย”

ก้าวอย่างมั่นคง สู่ประชาคมอาเซียน

ยังไม่สายเกินไป ที่คุณพ่อคุณแม่จะเตรียมความพร้อมให้กับลูก คุณหมอสุริยเดว มีวิธีง่ายๆ แค่ 3 ข้อ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ปลูกฝังให้กับลูกได้
1. หัวใจที่ยอมรับความแตกต่าง คุณพ่อคุณแม่ต้องฝึกให้ลูกมีวิธีที่คิดที่ดี มีมุมมองด้านบวกกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นภายในครอบครัวควรเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกัน ยอมรับความแตกต่าง รู้จักการเป็นผู้ฟัง รู้จักกล้าแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นรากฐานของการเปิดใจยอมรับในสิ่งที่หลากหลาย เมื่อเด็กต้องเจอความคิดและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เด็กจะปรับตัวให้อยู่ร่วมกันได้
2. สร้างเด็กสองภาษา คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมความพร้อมสำหรับภาษาที่สองให้กับลูกอย่างเร่งด่วน โดยอย่างน้อยอาจเป็นภาษาอังกฤษ เพราะภาษาอังกฤษจะเป็นหนึ่งในภาษาหลักในประชาคมอาเซียน หากเด็กมีทักษะภาษาอังกฤษก็สามารถสื่อสารได้กับผู้คนในประเทศสมาชิกอาเซียน เพราะหากเขาไม่มีทักษะด้านภาษาที่ดีพอ การสื่อสาร หรือที่สำคัญที่สุดด้านการศึกษาจะเกิดปัญหาขึ้นกับเด็กได้ครับ
3. รู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยี เด็กต้องเรียนรู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี รู้เท่าทันสื่อต่างๆ เพราะหากไม่รู้เท่าทัน เด็กอาจถูกล่อลวงได้ง่าย เพราะเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจะทำให้มีสินค้า สื่อ และเทคโนโลยีต่างๆ หลั่งไหลเข้ามามากมาย หากเด็กไม่ได้รับการฝึกที่ดี เด็กอาจกลายเป็นพวกวัตถุนิยม บริโภคนิยมได้ครับ คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนเขาโดยการพูดคุยและใช้สื่อเป็นตัวกลางในการแนะนำไม่ว่าจะเป็นด้านลบหรือด้านบวก คอยให้เขาได้ลองฝึกการคิดวิเคราะห์ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ อาจเลือกข่าวสารมานั่งพูดคุยกันก็ได้

การที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับภูมิภาคเลย ดังนั้นระยะเวลาที่เหลืออีกปีกว่าๆ คุณพ่อคุณแม่จะรอช้าไม่ได้แล้วรีบเตรียมพร้อมลูกของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อก้าวสู่เวทีระดับภูมิภาคได้อย่างมั่นคงครับ


ที่มา: 
นิตยสาร Kidscovery 
เรียบเรียง : Momypedia

Comments

Popular posts from this blog

วิธีการรับมือกลับการเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น

วัยรุ่น เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ สังคม และอารมณ์  เกิดขึ้นก่อนที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางจิตใจ โดยผ่านกระบวนการพัฒนาการด้านต่างๆรวมไปถึงการมีเอกลักษณ์ของตนเอง ( Identity) การมีอิสระ เป็นตัวของตัวเอง (Independence) การรู้จักและควบคุมอารมณ์ของตนเอง และการมีมโนธรรมที่เคารพกฎเกณฑ์ของสังคม ( Conscience) ตลอดจนสามารถมีความรักความผูกพันกับเพื่อนและเพศตรงข้ามได้อย่างเหมาะสม ( Intimacy) ซึ่งโดยส่วนมากแล้ววัยรุ่นสามารถผ่านกระบวนการนี้ไปได้ด้วยดี แต่อาจมีวัยรุ่นบางส่วนที่อาจเผชิญกับปัญหาการปรับตัวเหล่านี้ที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือ ปัญหาด้านอารมณ์ ดังนั้นผู้ปกครองควรทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่างๆในช่วงวัยนี้ ทั้งด้านอารมณ์ของวัยรุ่นที่ไม่คงที่ เปลี่ยนแปลงง่ายและรวดเร็ว วู่วาม หงุดหงิดง่าย ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนเพศ สภาพร่างกายและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อารมณ์ที่พบบ่อยคือ ความรู้สึกวิตกกังวล กลัวต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเอง อารมณ์ทางเพศที่สูงขึ้น พฤติกรรมทางเพศ รวมทั้งกลัวความเป็นผู้ใหญ่ กลัวการรับผิดชอบ การยอมรับจากเพื่อน ความขัดแย้งในการมีอิสระและ...

Loyalty starts from the top.

พ . ต . ท .  ดร .  สัญญา เนียมประดิษฐ์ ผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์  และดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับกองบัญชากลางตำรวจสอบสวนกลาง อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจและอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยต่างๆ  ส่วนอีกบทบาทหนึ่งคือการเป็น คุณพ่อ ที่ให้ความสำคัญทางการศึกษาสำหรับลูกๆทั้งสามคนอย่างมาก ลูก คือ แก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ดังนั้นก็จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกอยู่แล้ว  การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญมากที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยความที่ท่านมีความชื่นชอบการศึกษาหลักสูตรอังกฤษเป็นทุนเดิม “ ระบบอังกฤษจะเน้นให้เด็กเป็นตัวของตัวเอง ดึงศักยภาพของเด็กคนนั้นออกมา ไม่ใช่เอาเด็กไปฝากไว้กับระบบ แต่เอาระบบมาตามตัวเด็ก”   เพราะให้  ความสำคัญที่ตัวเด็กเป็น สำคัญ  เปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ความคิดเชิงวิเคราะห์ และศึกษาในสิ่งที่ตนเองสนใจ ซึ่งพัฒนาไปสู่การเรียนรู้อย่างสมบ ู รณ์แบบ ควบคู่ไปกับความเพลิดเพลิน ใน การเรีย น รู้สิ่งใหม่ๆ              “ หลักสูตรอเมริกา มันถูกสร้างมาเป็นบล็อกๆ แบบเดียวกับหลักสูตรไทย แต...

CIS คือ อะไร ??

   หลายท่านอาจสงสัยว่า CIS คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร ทำไมโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งถึงนำเสนอว่าตนได้รับการรับรองจาก CIS แล้ว เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นจะขอสรุปสั้นๆให้เข้าใจ  ดังนี้ CIS  ย่อมาจาก Council of International Schools        คือ สถาบันชั้นนำอันดับหนึ่ง ที่ประเมินคุณภาพและรับรองมาตรฐานทางการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติที่ใช้หลักสูตรอังกฤษทั่วโลก สถานบันนี้ได้มุ่งเน้นความเข้มแข็งทางด้านวิชาการ พร้อมทั้งพัฒนาความสัมพันธ์ และ การร่วมมือกันระหว่างคุณครูและผู้ปกครองอย่างดีเยี่ยม  เพราะฉะนั้นโรงเรียนที่จะได้รับการรับรองมาตรฐานจาก CIS ได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความพร้อมในทุกๆด้าน ที่ตรงกับกฏเกณฑ์ที่ CIS กำหนดไว้ เช่น โปรแกรมการเรียนการสอนที่เข้มข้น ครูที่ต้องจบด้านการศึกษาและเป็นชาวอังกฤษทั้งหมด ความพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์การสอน ที่ต้องมีคุณภาพเทียบกับโรงเรียนเอกชนชั้นนำในประเทศอังกฤษ  รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ได้มาตราฐานสากล    นอกเหนือจากนั้นโรงเรียนที่ได้รับรองมาตรฐานแล้วต้องมุ่งพัฒนาบุคลากรของโรงเรีย...