วันนี้เราได้มีโอกาสนั่งคุยกับน้องปริม ศิษย์เก่าของเราที่กลับมาเยี่ยมเพื่อนๆ ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน เรามาฟังกันว่าจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องไปเรียนต่อโรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ 14 ปี นั้นเป็นอย่างไรบ้าง
“น้องปริมเรียนที่โรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์ตั้งแต่ระดับชั้นไหนคะ?”
ตั้งแต่Reception 1 จนถึง Year 9 ค่ะ
เป็นนักเรียนเบอร์ 1 ของโรงเรียนเลย
“เพราะเหตุใดถึงไปเรียนที่อังกฤษ”
ตอนนี้ญาติพี่ๆน้องๆก็ไปเรียนอยู่ที่นั่นหมดเลยค่ะ คุณแม่เองก็ไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่
10 ขวบ เหมือนเป็นธรรมเนียมของครอบครัวเราที่จะส่งลูกหลานไปเรียนรู้ประสบการณ์การใช้ชีวิตที่นั่นค่ะ
" แล้วปัจจุบันเรียนอยู่ที่โรงเรียนอะไร ?"
ตอนนี้เรียนอยู่ที่โรงเรียน Roedean school อยู่ที่เมืองBrighton ค่ะ
“ได้ข่าวว่านักเรียนไทยที่ไปเรียนที่อังกฤษโดนลดชั้นเรียนด้วยใช่ไหมคะ ”
ใช่ ค่ะ น้องปริมไม่ถูกลดชั้นนะคะ แต่มีบางคนที่โดนลดชั้นนะคะ
“เพราะอะไรคะ”
...เพราะภาษาอังกฤษ และวิชาการ ค่ะ เพราะอย่างน้องปริม เป็น Year 10 แล้ว
เรื่องเนื้อหาวิชาที่เรียนนั้นค่อนข้างยากเพราะต้องเตรียมตัวสอบ GCSE ตอน year 11
และอีกเหตุผลคือ เรื่องอายุค่ะ เพราะระบบตัดอายุที่ 31 สิงหาคม ค่ะ เพื่อนน้องปริม
ที่มาจากเมืองไทยที่เกิดหลังจากวันที่เค้ากำหนด ก็ต้องโดนลดชั้น
“ทราบมาว่า
คุณแม่ส่งน้องปริมไปเรียนที่อังกฤษแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนที่ทราบว่าต้องไปนั้นน้องปริมรู้สึกยังไงคะ”
ครั้งแรกเลย คือ ตกใจมาก เพราะไม่คิดเลยว่าจะต้องไป ตอนนั้น
และคิดว่าจะต้องยากมากๆเพราไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลย แต่พอไปถึงแล้ว
มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่กลัวไปก่อนเลย
“ช่วงแรกที่ย้ายไปเรียนที่อังกฤษ
เป็นอย่างไรบ้าง?”
ถ้าเป็นเรื่องชีวิตประจำวันก็ต้องปรับตัวประมาณหนึ่งเพราะอยู่โรงเรียนประจำ
แต่เรื่องการเรียนนั้นรู้สึกไม่กดดันอะไรเลยนะคะ
วิชาเลข ก็เรียนต่อกันเลย สบายมาก
วิชาภาษาอังกฤษ ก็ใช้หนังสือเล่มเดียวกัน
ทำให้ไม่เครียดสำหรับเรื่องการเรียนเลย
“แล้วการพบเจอเพื่อนใหม่เป็นอย่างไรบ้างคะ”
เพื่อนใหม่ก็น่ารักเป็นส่วนใหญ่ค่ะ คุณแม่บอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง
คุณแม่สอนปริมตั้งแต่เด็กๆตลอดว่า เราไม่สามารถบังคับให้ทุกคนทำดี พูดดี
คิดดีกับเราได้ เพียงแต่ถ้าเราไม่ชอบแบบไหน ก็อย่าไปทำแบบนั้นกับคนอื่นค่ะ
“ในฐานะที่เป็นลูกสาวของผู้บริหารโรงเรียน น้องปริมมีความกดดันอะไรไหมระหว่างที่อยู่ที่ฮีทฟิลด์”
ก็มีบ้างค่ะ สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมคุณแม่ถึงให้เรียนที่โรงเรียนคุณแม่
จนตอนนี้ก็ยังสงสัยอยู่ค่ะ แต่เพราะเป็นลูกสาวของผู้บริหาร คุณแม่จะสอนปริมและน้องๆเสมอว่าจะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีเพราะเวลาเราทำผิด
ความผิดของเราจะร้ายแรงกว่าคนอื่น 100 เท่า 1,000 เท่า เวลาอยู่โรงเรียนปริมก็เป็นนักเรียนคนหนึ่ง
ไม่มีสิทธิพิเศษอะไรเพราะคุณครูจะดูแลนักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันหมดค่ะ
“วิธีการเรียนการสอนของที่ Roedean
School กับ Heathfield
International School ต่างกันอย่างไรบ้าง?”
แล้วตอนที่ย้ายไปช่วงแรกๆนั้นสามารถเรียนได้ต่อเนื่องกับที่เมืองไทยไหม
ด้านระบบการเรียนการสอนและเนื้อหาไม่ต่างกันค่ะ จะต่างกันที่วิธีการสอนของครูแต่ละคน
เช่น บางท่านเน้น Lecture บางท่านเน้นการเรียนผ่านกิจกรรมในห้องเรียน
“กิจกรรมยามว่างที่เข้าร่วมกับเพื่อนๆมีอะไรบ้าง?”
เล่นกีฬาทุกวันค่ะ ที่นู่นจะพยายามให้นักเรียนทำกิจกรรม
จะได้ไม่ว่างคิดถึงบ้าน อย่างของปริมนอกจากเล่นกีฬา ปริมก็จะไปเข้าคลับกับเพื่อนตอนหลังเลิกเรียน
แล้วก็ กลับที่พัก ทำการบ้านแล้ว เข้านอน ตอน สี่ทุ่ม
“ในอนาคตอยากเรียนต่อด้านไหนในระดับมหาวิทยาลัย?”
ตอนนี้ที่คิดไว้คือ หมอค่ะ
“ถ้าเพื่อนที่เมืองไทยต้องการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษน้องปริมจะแนะนำเพื่อนอย่างไรบ้าง?”
เปิดตา เปิดใจให้กว้างค่ะ การเรียนการสอนที่อังกฤษไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เนื้อหาที่เรียนก็ไม่แตกต่างจากที่เราเรียนมา อาจต้องปรับตัวบ้างเรื่องการใช้ชีวิตที่ต้องดูแลรับผิดชอบตัวเองแต่ถ้าเตรียมใจพร้อมเรียนรู้
ก็สนุกกับประสบการณ์ใหม่ๆทุกวันค่ะ
Comments
Post a Comment