เด็กปฐมวัยเรียนรู้ภาษา จากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวทั้งสิ่งแวดล้อมที่บ้าน และโรงเรียน เด็กจะเรียนรู้การฟังและการพูดก่อน เพราะการฟังและการพูดเป็นของคู่กัน เป็นพื้นฐานทางภาษา กล่าวคือ เมื่อฟังแล้วก็ย่อมต้องพูดสนทนาโต้ตอบได้ การเรียนภาษาของเด็กปฐมวัยไม่จำเป็นต้องอาศัยการสอนอย่างเป็นทางการ หรือตามหลักไวยกรณ์ แต่จะเป็นการเรียนรู้ จากการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวทั้งจากที่บ้านและที่โรงเรียน
ทฤษฎีเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษา
ทฤษฏีที่เกี่ยวกับการเรียนอยู่ภาษาในปฐมวัยที่สำคัญมีอยู่
3 ทฤษฏีใหญ่ๆดังนี้
1. ทฤษฎีของนักพฤติกรรมศาสตร์ (The Behaviorist
View)
การเรียนรู้ภาษาของเด็กเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากผลการปรับสิ่งแวดล้อมของแต่ละบุคคลที่มีอยู่ในตนเอง
ในขณะที่เด็กเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แรงเสริมในทางบวกจะถูกนำมาใช้เมื่อภาษาของเด็กใกล้เคียงตามภาษาของผู้ใหญ่
ซึ่งนักพฤติกรรมศาสตร์มีความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนภาษาของเด็ก คือ
1. เด็กเกิดมาโดยมีศักยภาพในการเรียนรู้
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ โดยปราศจากความสามารถพิเศษในด้านการเรียนทางใดทางหนึ่ง
2. การเรียนรู้
ซึ่งรวมถึงการเรียนภาษาเกิดขึ้น โดยการที่สิ่งแวดล้อมเป็นผู้ปรับพฤติกรรมผู้เรียน
3. พฤติกรรมทั่วไปรวมทั้งพฤติกรรมภาษา
ถูกปรับโดยแรงเสริมจากจากการตอบสนองที่เกิดขึ้นจากสิ่งเร้า
2. ทฤษฎีของนักสังคมศาสตร์ (The Socialist View)
นักทฤษฎีสังคมหรือทฤษฎีวัฒนธรรมจะให้ความสนใจเกี่ยวกับผลกระทบของสิ่งแวดล้อมทางภาษาของผู้ใหญ่ที่มีต่อพัฒนาการทางภาษาของเด็ก
ผลการวิจัยกล่าวว่า
วิธีการที่ผู้ใหญ่หรือพ่อแม่ปฏิบัติต่อเด็กมีผลต่อพัฒนาการทางภาษา
และพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก วิธีการเหล่านี้ ได้แก่ การอ่านหนังสือให้เด็กฟัง
การสนทนาระหว่างรับประทานอาหาร การแสดงบทบาทสมมุติ การสนทนา เป็นต้น
3. ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์ (Piaget Theory)
เพียเจท์
(Piaget) เชื่อว่าการเรียนรู้ภาษาเป็นผลจากความสามารถทางสติปัญญา
เด็กเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบตัวของเขา
เด็กจะเป็นผู้ปรับสิ่งแวดล้อมโดยการใช้ภาษาของตน
นอกจากนี้เพียเจท์
(Piaget) ยืนยันว่า พัฒนาการทางภาษาของเด็กเป็นไปพร้อมๆ
กับความสามารถด้านการให้เหตุผล การตัดสิน และด้านตรรกศาสตร์ เด็กต้องการสิ่งแวดล้อมที่จะส่งเสริมให้เด็กสร้างกฎ
ระบบเสียง ระบบคำ ระบบประโยค และความหมายของภาษา
นอกจากนี้เด็กยังต้องการฝึกภาษาด้วยวิธีการหลาย ๆ วิธีและจุดประสงค์หลาย ๆ อย่าง
จาก 3 ทฤษฏีหลักในการเรียนภาษาของเด็กในปฐมวัย
แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการทางภาษาของเด็ก
ดังนั้นคณพ่อและคุณแม่ที่ต้องการในลูกมีพัฒนาการในภาษาที่สองจึงควรให้เด็กได้คลุกคลีกับภาษานั้นตั้งแต่เด็กอยู่
2-3 ปี การเรียนในโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักจึงเป็นทางเลือกอีกทาง
ที่ก่อให้เกิดประสิทธิ์ภาพต่อการพัฒนาภาษาที่สองของเด็กอย่างดีเยี่ยม
Comments
Post a Comment