Vanat Vanachayangkul (Ay) |
วนช
วนชยางค์กูล (Vanat
Vanachayangkul) หรือ
“อ้าย”
ศิษย์เก่าโรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ Haileybury Boarding
School ณ ประเทศอังกฤษ เพิ่งจบ Year9 ได้กลับมาเยี่ยมเพื่อนๆที่โรงเรียนระหว่างปิดภาคเรียน
เราจึงได้มีโอกาสพูดคุยกับเค้าถึงการเป็นนักเรียนในโรงเรียนประจำและสิ่งที่ได้จากโรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์
“อ้าย
เรียนที่โรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์ตั้งแต่ระดับชั้นไหน?”
“อ้ายเรียนที่นี่ตั้งแต่ Year 1 จนถึง Year6 ครับ”
“เพราะเหตุใดอ้ายถึงไปเรียนที่อังกฤษ”
เนื่องจากอ้ายเป็นลูกชายคนเดียวของคุณพ่อคุณแม่
และเป็นหลานชายคนโต ตอนเด็กๆเลยถูกตามใจจากคนรอบข้างมาก
เลยเป็นเด็กที่ค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง ไม่ยอมใคร
คุณพ่อคุณแม่อยากให้มีความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัยมากกว่านี้เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่น้องๆ
จึงให้ไปเรียนต่อที่ โรงเรียนประจำตั้งแต่จบ Year 6
“ช่วงแรกที่ย้ายไปเรียนที่อังกฤษ
อ้ายต้องปรับตัวอะไรบ้าง?”
“อ้ายคิดว่าโรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์ได้ปูพื้นฐานทางภาษาอังกฤษให้อ้ายอย่างดี
ซึ่งอ้ายสอบผ่านข้อสอบวัดพื้นฐานภาษาอังกฤษเมื่อตอนสอบเข้าที่Haileybury Boarding School ดังนั้นอ้ายจึงไม่ต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษอีก
ขณะที่นักเรียนไทยส่วนใหญ่ พวกเขาต้องใช้เวลาเกือบครึ่งปีเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษก่อนที่จะได้เข้าเรียนชั้นเรียนปกติ”
อ้ายยังบอกอีกว่าความสามารถทางภาษาที่ทำให้เขาเข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น
ซึ่งส่งผลดีโดยตรงกับผลการเรียนในวิชาต่างๆ ของอ้าย ยิ่งไปกว่านั้นช่วยให้อ้ายเข้าสังคมและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ได้ง่ายขึ้น
“ส่วนที่ต้องปรับตัวมากเลย
อ้ายคิดว่าเป็นเรื่องของการโรงเรียนประจำมากกว่า ซึ่งโรงเรียนประจำจะสอนให้อ้ายต้องดูแลรับผิดชอบตัวเองมากขึ้นโดยที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่มาคอยช่วยเหลือ
อย่างเช่น อ้ายต้องจัดเตรียมเสื้อผ้า ทำความสะอาดห้องเอง ถ้าอ้ายตื่นสายก็จะไปไม่ทันอาหารเช้า
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้อ้ายมีความรับผิดชอบต่อตนเอง และเป็นคนที่ตรงต่อเวลา พออ้ายกลับมาที่เมืองไทยจึงมีผู้ใหญ่หลายท่านทักว่าอ้ายโตขึ้น
ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ และมีความรับผิดชอบมากขึ้น”
“ความยากง่ายของการเรียนที่อังกฤษ
กับ เรียนที่โรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์ต่างกันอย่างไร?”
อ้ายคิดว่าเรียนที่ฮีทฟิลด์ยากกว่าเรียนที่อังกฤษ
เพราะที่ฮีทฟิลด์จะเรียนเยอะกว่า พออ้ายไปที่ประเทศอังกฤษแล้ว อ้ายรู้สึกว่าอ้ายได้เรียนสิ่งที่เคยเรียนจากที่เมืองไทยอีกครั้ง
เลยทำให้อ้ายค่อนข้างไปเร็วกว่าเพื่อนๆในห้องเดียวกัน
“ที่เราทราบมาก็คือ
ตอนที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์ อ้ายเป็นเด็กเรียนเก่งได้ A เกือบทุกวิชา
แล้วผลการเรียนตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
อ้ายกำลังจะขึ้น Year 10
และกำลังเตรียมตัวสอบ IGCSE วิชาคณิตศาสตร์ในปีนี้ด้วย
โดยปกติแล้วการสอบ IGCSE ต้องใช้เวลา 2 ปีในการเตรียมตัวสอบ
ที่อ้ายสามารถสอบในปีนี้ได้ก็เพราว่าส่วนหนึ่งมาจากพื้นฐานวิชาที่ดีจากที่ฮีทฟิลด์ทำให้อ้ายเรียนนำหน้าเพื่อนในห้องได้ เกรดที่ได้ล่าสุดก็ได้ A เกือบทุกวิชา
ยกเว้นวิชา Music ที่อ้ายไม่ค่อยถนัด
“วิธีการเรียนการสอนของที่ Haileybury Boarding School กับ Heathfield International
School
ต่างกันอย่างไรบ้าง?”
สิ่งหนึ่งที่อ้ายชื่นชอบกับการเรียนที่
Hailey Boarding School คือ การที่คุณครูมักจะเปิดโอกาสให้นักเรียนไปค้นหาคำตอบด้วยตนเองมากกว่าการอธิบายทุกอย่างในห้องเรียน ซึ่งคุณครูที่โรงเรียนฮีทฟิลด์ก็มีสไตล์การสอนที่คล้ายคลึงกัน
เพียงแต่เนื้อหาของบทเรียนเยอะกว่าที่ Hailey Boarding School ซึ่งอาจทำให้อ้ายต้องเรียนหนักกว่า และ คุณครูบางคนก็อาจจะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างในห้องเพื่อให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด
“กิจกรรมยามว่างที่อ้ายเข้าร่วมกับเพื่อนๆมีอะไรบ้าง?”
อ้ายชอบเล่นกีฬากับเพื่อนๆ
เพราะเป็นการเข้าสังคมที่ทำให้อ้ายรู้จักเพื่อนใหม่มากขึ้น และที่ Haileybury Boarding School มีกีฬาให้เล่นมากมายเนื่องจากมีสถานที่ไว้ออกกำลังกายสำหรับกีฬาต่างๆ
เช่น สนามเทนนิส สระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล อ้ายเล่น Hockey อยู่ทีม A,
Cricket อยู่ทีม B, Rugby อยู่ทีมA
ซึ่งกีฬาเหล่านี้ อ้ายได้เรียนรู้กฎกติกาต่างๆ มาจากการวิชาพละที่โรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์มาก่อนแล้ว
พอมาเล่นอีกครั้งที่อังกฤษเลยทำให้เข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนได้ง่าย
“ในอนาคตอ้ายอยากเรียนต่อด้านไหน
มีมหาวิทยาลัยในดวงใจหรือยัง?”
อ้ายชอบเรียน Ancient Civilization เพราะ อ้ายชอบวิชาประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ตอนอายเด็กๆ
คุณแม่พาไปเที่ยวที่ อียิปต์ อ้ายชอบสถาปัตยกรรมของเขา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้อ้ายอยากเรียนต่อด้าน
Ancient Civilization
ส่วนมหาวิทยาลัยที่อ้ายอยากเข้าเรียนต่อคือมหาวิทยาลัย
Cambridge หรือ Oxford ครับ
“ถ้าเพื่อนที่เมืองไทยต้องการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษอ้ายจะแนะนำเพื่อนอย่างไรบ้าง?”
อ้ายเชื่อว่าภาษาอังกฤษของเพื่อนๆดีอยู่แล้วเพราะที่นี่ปูทักษะด้านภาษาดี
พูดถึงเรื่องการเรียนด้วย แต่อาจจะต้องขยันอ่านหนังสือเพราะคนอังกฤษชอบอ่าน
ชอบค้นคว้า ไม่เข้าใจในห้องเรียนก็ถามครูได้เลยเพราะอยู่ที่นู่นจะต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง
และก็พยายามทำกิจกรรมกับเพื่อนๆเสมอจะได้ไม่เหงาครับ
Comments
Post a Comment